วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2556

                    
การเพาะเลี้ยงปลาทอง
                                                                                   รศ.ประภาส  โฉลกพันธ์รัตน์                                                                                                                                  **
1 ประวัติของปลาทอง2 การจำแนกทางอนุกรมวิธาน
3 ลักษณะรูปร่างของปลาทอง
4 ลักษณะพันธุ์ของปลาทอง
5 การจำแนกเพศปลาทอง
6 วิธีการเพาะปลาทอง
7 การฟักไข่ปลาทอง
8 การอนุบาลลูกปลาทอง
9 การเลี้ยงปลาทอง
10 ชนิดปลาที่ดำเนินการ
เพาะพันธุ์เช่นเดียวกับปลาทอง


                  ปลาทองหรือปลาเงินปลาทอง มีชื่อสามัญว่า Goldfish   เป็นปลาสวยงามน้ำจืดที่นิยมเลี้ยงมานานแล้ว จัดเป็นปลาที่ติดตลาด คือเป็นปลาที่มีจำหน่ายในร้านขายปลาสวยงามทุกร้านและสามารถขายได้ราคาดีตลอดปี โดยทั่วไปจัดว่ามีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน ซึ่งชาวจีนจะเรียกปลาทองที่ได้จากแหล่งน้ำธรรมชาติว่า Chi Yu และเรียกปลาทองที่เลี้ยงอยู่ตามบ้านว่า Chin Chi Yu ในประเทศญี่ปุ่น ปลาทองได้รับความนิยมเลี้ยงกันอย่างมาก และมีการพัฒนาวิธีการเพาะพันธุ์มีการคัดเลือกปลาที่มีลักษณะเด่นต่างๆมาผสมพันธุ์กัน ทำให้ได้ปลาทองที่มีลักษณะสวยงามขึ้นมาหลายชนิด และได้รับความนิยมแพร่หลายไปยังประเทศต่างๆ
                ชาวจีนเป็นชาติแรกที่นิยมเลี้ยงปลาทอง โดยปลาทองสายพันธุ์ดั้งเดิมไม่มีความสวยงามมากนัก   มีลักษณะทั่วไปคล้ายปลาไน เพียงแต่ว่ามีสีสันสวยงามและสดกว่าปลาไน   
.
ภาพที่ 1  แสดงลักษณะปลาทองพันธุ์ดั้งเดิม (Wild Type)
                                                ที่มา : Coffey (1977)
               การเลี้ยงปลาทองได้รับความนิยมมากในระหว่างปี พ.. 1243 - 1343   โดยชาวจีนในสมัยนั้นนิยมเลี้ยงปลาทองไว้ในสระน้ำในบริเวณรั้วบ้าน  ต่อมาในปี พ.. 1716 - 1780  มีการนำปลาทองมาเลี้ยงในกรุงปักกิ่ง โดยนิยมเลี้ยงในอ่างกระเบื้องเคลือบ การเลี้ยงปลาทองเพื่อการจำหน่ายจึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว เริ่มมีการเพาะพันธุ์ปลาทองและได้พันธุ์ปลาแปลกๆมากขึ้น ในปี พ.. 2043 จึงมีการนำปลาทองเข้าไปเลี้ยงในเมืองซาไกประเทศญี่ปุ่น แต่ได้รับความสนใจมากในปี พ.. 2230 สำหรับประเทศอื่นๆที่มีรายงานเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาทองได้แก่
                ปี พ..  2234   ที่ประเทศอังกฤษ
                ปี พ..  2323   ที่ประเทศฝรั่งเศส
                ปี พ..  2419   ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
                สำหรับในประเทศไทยไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่คาดว่าราวปี พ..  1911 - 2031
.
      
ภาพที่ 2  ลักษณะปลาทองที่ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในระยะแรกๆ(Common Goldfish)
                              ที่มา : Bailey and Sandford (2000)    
                Frank (1969)  ได้จัดลำดับชั้นของปลาทองไว้ดังนี้
                Class                       :   Osteichthyes
                  Subclass               :   Teleostei
                    Order                  :   Cypriniformes
                      Suborder           :   Cyprinoidei (Carps)
                        Family             :   Cyprinidae
                          Genus           :   Carassius
                            Species       :   auratus                            
                                                                                                                                  .              
ลักษณะรูปร่างของปลาทอง           
                 ปลาทองสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบในธรรมชาตินั้น มีรูปร่างคล้ายปลาไนแต่มีขนาดเล็กกว่าปลาไนมาก คือ เป็นปลาที่มีรูปร่างป้อม แบนข้างเล็กน้อย ส่วนหัวลาด ปากมีขนาดเล็ก มีหนวดสั้น 2 คู่ ครีบหลังค่อนข้างยาว ครีบหางเป็นแฉกเว้าลึก ีลำตัวมีสีน้ำตาลคล้ำอมทองหรือสีส้ม ส่วนท้องสีจางกว่าลำตัว หรือสีขาว 
                 เนื่องจากมีการนำปลาทองไปเลี้ยงในประเทศต่างๆ ประกอบกับเป็นปลาที่ผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์กับปลาในกลุ่มเดียวกันชนิดอื่นๆได้ง่าย ทำให้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลาทองชนิดใหม่ๆออกมาหลายชนิด มีลักษณะเด่นสวยงามแตกต่างกันไป ซึ่งลักษณะเด่นๆที่สำคัญที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ 
  • ครีบหาง เปลี่ยนแปลงจากหางแฉก หรือหางเดี่ยว เป็น หางพวง หรือหางคู่
  • ครีบก้น  เปลี่ยนแปลงจากครีบเดี่ยว เป็น ครีบคู่
  • ครีบหลัง บางชนิดจะไม่มีครีบหลัง
  • ส่วนหัว บางชนิดจะมีลักษณะที่พองออกเป็นวุ้น
  • ตา  บางชนิดมีกระบอกตาที่โป่งพองออก
 .
   ภาพที่ 3  แสดงส่วนต่างๆและรูปร่างของปลาทอง
.
  
ภาพที่ 4  แสดงลักษณะปลาทองสายพันธุ์ดั้งเดิมและสายพันธุ์ใหม่         
                                       ที่มา : Free-pet-wallpapers.com (2012) (ซ้าย)   .    
                                                Bailey and Sandford (2000) (ขวา)           
              จากการที่มีการพัฒนาทางด้านการเพาะพันธุ์   มีการคัดเลือกลักษณะเด่นที่ต้องการ  แล้วนำมาเพาะพันธุ์ต่อมาเรื่อยๆ   ทำให้ได้ปลาทองที่มีลักษณะและสีสันสวยงามหลายแบบด้วยกัน   และมีการตั้งชื่อพันธุ์ต่างๆไว้ดังนี้
                4.1 ปลาทองที่มีหางเดี่ยว   อาจเรียกหางปลาทู  หรือหางแฉก (Fork  Tail)   ลักษณะหางเป็นแผ่นแบนกว้าง   เว้าตรงกลางหรือเป็น  2  แฉก   มีสายพันธุ์ที่นิยม  2  สายพันธุ์   คือ
4.1.1 พันธุ์โคเมท (Comet)   เป็นปลาทองสายพันธุ์ดั้งเดิม   หรือต้นตระกูลของปลาทอง   ลักษณะลำตัวค่อนข้างแบนยาวคล้ายปลาไน   ลำตัวมักมีสีแดง   สีแดงสลับขาว   หรือสีทอง   ปัจจุบันไม่ได้รับความนิยม
.
    
                              ภาพที่ 5  แสดงลักษณะของปลาทองพันธุ์โคเมท
                                            ที่มา : สุรศักดิ์ (2538)  
.
  4.1.2 พันธุ์ชูบุงกิง (Shubunkin)    ลักษณะคล้ายพันธุ์โคเมท   แต่จะมีจุดประที่ลำตัวหลายสี   เช่น  สีแดง สีขาว  สีม่วง  สีส้ม  และสีดำ   เกล็ดจะค่อนข้างใส   จัดเป็นปลาทองที่สวยงามมากชนิดหนึ่ง   เนื่องจากมีสีเด่นหลายสี   สดใส   ได้รับความนิยมมากในสมัยก่อนและมีการตั้งชื่อไว้หลายชื่อ  เช่น   Speckled Goldfish ,  Harlequin  Goldfish ,  Vermilion  Goldfish  หรือ  Coronation  fish 
.
      
                               ภาพที่ 6  แสดงลักษณะของปลาทองพันธุ์ชูบุงกิง
                                             ที่มา : สุรศักดิ์ (2538)  
.
                 4.2 ปลาทองที่มีหางคู่   คือมีส่วนหางแยกออกเป็น  3 - 4  แฉก   มีทั้งที่มีครีบหลังตามปกติ   หรือบางชนิดไม่มีครีบหลัง   มีที่ได้รับความนิยมหลายสายพันธุ์  ดังนี้
4.2.1 พันธุ์ออแรนดา (Oranda) สมัยก่อนมักเรียกฮอลันดา   หรือฮอลันดาหัวแดง   ลักษณะลำตัวค่อนข้างยาว   มีครีบครบทุกครีบ   หางยาว   และมีลักษณะเด่นคือมีวุ้นที่ส่วนหัว (Hood) คล้ายพันธุ์หัวสิงห์   แต่มักไม่ขยายใหญ่เท่าหัวสิงห์   สีของวุ้นมักออกเป็นสีเหลืองส้ม   เป็นปลาทองที่มีขนาดใหญ่   และมีความสวยงามมากชนิดหนึ่ง   สีของลำตัวมักออกสีขาวเงิน    ชาวญี่ปุ่นเรียก   Oranda Shishigashira
.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น